ประวัติรำฉุยฉายพราหมณ์

ประวัติฉุยฉายสมัยโบราณ
การเล่นฉุยฉายในสมัยก่อน นิยมเล่นกันเมื่อขับเสภาเสร็จแล้ว ส่วนการเล่นขับเสภานั้น เป็นการร้องลำนำ เดินเรื่องขับเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เมื่อเลิกเล่นขับเสภาแล้วจึงเล่นฉุยฉาย
ฉุยฉายพราหมณ์นี้ตัดตอนมาจากบทละครในเรื่องรามเกียรติ์ภาคสวรรค์ ตอนพระคเณศเสียงา กล่าวถึง รามปรศุ เป็นยักษ์ซึ่งปกครองเหล่านักสิทธิ์วิทยาต่างๆ เป็นที่โปรดปรานแห่งพระอิศวร สามารถเข้าเฝ้าได้ทุกที่ทุกเวลา ขณะนั้นพระอิศวร และพระอุมาทรงบรรทมในพระที่ สั่งให้พระคเณศหรือพระคเณศวร ซึ่งเป็นพระโอรสเฝ้าทวารไว้ รามปรศุจะขืนเข้าเฝ้าจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น รามปรศุโกรธ เอาขวานเพชรที่ได้ประทานจากพระอิศวรขว้างไปถูกงาของพระคเณศหัก ความทราบถึงพระอุมา จึงได้สาปให้รามปรศุสิ้นฤทธิ์แข็งเป็นท่อนไม้ พระอิศวรทรงเมตตาแนะให้ปรศุบูชาถึงพระนารายณ์ เมื่อรามปรศุรำลึกถึง พระนารายณ์ก็ทรงแปลงเป็นพราหมณ์น้อยมาร่ายรำ "ฉุยฉายพราหมณ์" เมื่อพระอุมาทอดพระเนตรก็เห็น ก็โปรดเมตตาให้พร นารายณ์แปลงจึงขอกำลังรามปรศุคืน โดยแบ่งให้พระคเณศครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งคืนให้รามปรศุ บทร้องฉุยฉายพราหมณ์นี้เป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


          -สถานที่ ใช้เวทียกพื้นหรือลานกว้างๆก็ได้ ดนตรี มีเครื่องพิณพาทย์ และกรับไม้ชิงชัน อย่างเช่นการเล่นเสภา 
          -การแต่งกาย ต้องแต่งให้สุภาพเรียบร้อยถูกต้อง ตามรัฐนิยม และวัฒนธรรม เช่น ชายนุ่งกางเกงสากล หญิงสวมกระโปรง และทั้งชาย และหญิงสวมเสื้อเชิ้ต สวมหมวก และใส่รองเท้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น